มาดูกันก่อน! กับคำถามที่ว่า 5 ลีกใหญ่ของยุโรปจะพักกันเมื่อไหร่ พักนานแค่ไหน เพื่อหลีกทางให้กับฟุตบอลโลกที่กาตาร์ ?

อีกประมาณเดือนเดียวเท่านั้น มหกรรมโม่แข้งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในจักรวาลนี้ ก็จะระเบิดขึ้นกันแล้ว (เพราะมีเตะกันอยู่เพียงในโลก ไปหาแถวดาวอังคารก็ไม่น่าที่จะมี) และเรารู้กันอยู่แล้วว่ามีทีมไหนบ้างที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายไปบรรเลงเพลงเตะกันที่ประเทศกาตาร์ ซึ่งก็ถือว่าเป็น ฟุตบอลโลก หนแรกสุดในภูมิภาคนี้กันเลย ท่ามกลางปัญหาร้อยแปดพันประการ ที่เราเคยกล่าวกันไปบ้างแล้ว อย่างปัญหาแรงงานที่มีการหมกเม็ดมากมายจนมีการสูญเสียชีวิตและบาดเจ็บ ซึ่งโดยมากจะเป็นแรงงานจากเอเชียใต้ รวมถึงปัญหาการละเมิดสิทธิ ซึ่งก็ว่ากันไม่ได้เพราะประเทศนี้นั้น กฎหมายประเภทนี้เคร่งครัดกันเหลือเกิน และยังมีปัญหาเกี่ยวกับการคอรัปชั่นและการล็อบบี้ทั้งในส่วน FIFA และบรรดาผู้ที่เกี่ยวข้อง เรียกได้ว่าอีนุงตุงนังกันไปหมด

แต่ยังไงเสีย ในเมื่อภาษาต่างประเทศนั้น เขาว่ากันไว้ว่า The Show Must Go On หรือที่คนไทยพูดกันง่ายๆก็เห็นจะเป็น ผีถึงป่าช้าแล้ว ถ้าจะไม่ฝังก็ต้องเผา เรียกได้ว่าอีกเดือนเดียว ทุกๆ ฝ่ายที่เกี่ยวข้องนั้น ก็คงจะเข็นเอาอีเวนต์นี้ผ่านพ้นไปจนได้ โดยเฉพาะความยุ่งยากของการเตะฟุตบอลลีกแถบยุโรป ที่ทุกๆ ปีนั้นจะเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อทั้งฟุตบอลถ้วยและลีก แต่ไม่มีทางเลือกกันเลย เพราะบรรดา นักฟุตบอล ของแต่ละสโมสรนั้น ต่างก็พาเหรดไปกระจุกกันอยู่ที่นั่นหมด  ทางออกก็เห็นจะมีทางเดียวคือ ปิดกันไปเลยแล้วค่อยว่ากันภายหลัง ง่ายดี

ส่องดูผลกระทบเต็มๆ

ลีกใหญ่นั้น จำเป็นต้องพักเบรกยาวเพื่ออำนวยความสะดวกในการส่งนักเตะไปรับใช้ชาติอย่างเสียมิได้ และนักเตะตัวเทพที่เดินทางไปโม่แข้งจะกลับมาในสภาพไหนก็ไม่รู้ได้ก็ต้องมาลุ้นกันเอาเอง ซึ่งบรรดาลีกยักษ์ใหญ่ที่ว่านั้นจะเป็นลีกอะไรบ้าง มาดูกันเลย

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

ลีกที่เรียกได้ว่ามีแฟนบอลชาวไทยติดตามกันมากที่สุดมานานหลายสิบปี เรียกได้ว่าเป็นลีกรวมดาว เอาเฉพาะแฟนบอลของทีมหงส์แดง และปีศาจแดงนั้น ก็เรียกเลยว่าแทบจะครึ่งหนึ่งของแฟนบอลทั้งประเทศเข้าไปแล้ว และยิ่งเป็นลีกที่รวมดาราดาวเตะ ผลกระทบนั้น ก็จะมากมหาศาลเป็นธรรมดา ซึ่งปกติตารางฟุตบอลของประเทศนี้ก็จะมั่วกันพอสมควรเป็นปกติอยู่แล้ว อยากจะเลื่อนก็เลื่อน อยากจะงดก็งด แถมยังต้องลงแข่งแบบอัดแน่นเพราะต้องหยุดพักเบรก ฟุตบอลโลกอีก ซึ่งพรีเมียร์ลีกจะงดแข่งกันในวันที่ 14 พฤศจิกายน เป็นต้นไป ก็คือไม่กี่วันข้างหน้านี้แล้ว และจะกลับมาเล่นกันแบบไม่ต้องหยุดพักกันเลยในช่วงวันที่ 26 ธันวาคม หรือ Boxing Day มหกรรมเตะมาราธอนในตำนานที่ นักฟุตบอล จะต้องเล่นกันแทบจะวันเว้นวันในช่วงรอยต่อของปีใหม่ ดูไม่จืดกันอย่างแน่นอน

บุนเดสลีกา เยอรมัน

เป็นลีกที่คนติดตามกันมากรองจากพรีเมียร์ลีก  ซึ่งจะพักเบรกกันหลังจากวันที่ 14 พฤษจิกายนเป็นต้นไป เล่นเดียวกัน แต่ที่พิเศษก็คือ ลีกนี้จะได้พักยาวกันกว่าชาวบ้านคือ  เปิดมาอีกทีก็ปีหน้ากันเลย 21 มกราคม เพราะจะไปตรงกับช่วงหนีหนาว ที่จะมีการงดแข่งกันทุกๆ ปีกันอยู่แล้ว และแถมเปิดมา ก็มีบิ๊กแมทช์ระหว่าง แอร์เบ ไลป์ซิก จะเปิดบ้านพบกับ บาเยิร์น มิวนิค ทันทีเลยอีกด้วย ซึ่งถือได้ว่าเป็นทีมใหญ่หัวตารางด้วยกันทั้งคู่

ลีกเอิง ฝรั่งเศส

เป็นลีกที่ไม่ค่อยจะมีสตาร์ดังเท่าไหร่ ถึงจะมี ก็จะเป็นการกระจุกตัวของ นักฟุตบอล กันอยู่เพียงทีมเดียวคือทีม เปเอสเช นั่นเอง  15 พฤศจิกายน ก่อนจะกลับมาลงฟาดแข้งกันอีกครั้งในวันที่ 28 ธันวาคม ซึ่งก็จะเป็นการเตะในช่วงปีใหม่เช่นเดียวกัน

ลาลีกา สเปน

ลีกรวมดาว ที่ต้องบอกเลยว่าผลกระทบมากันแบบเต็มๆ โดยเฉพาะสองทีมดัง บาร์ซ่า และ รีลมาดริด คู่แย่งแชมป์ตลอดกาลที่จะถูกดึงสตาร์ดังไปช่วยงานทีมชาติไปไม่น้อยตามระเบียบ ซึ่งจะหยุดเตะกันในฟุตบอลลีกตั้งแต่  11 พฤศจิกายน และจะกลับมาลงทำการแข่งขันในเกมสัปดาห์ที่ 15 อีกครั้งตั้งแต่วันที่ 31 ธันวาคม เรียกได้เลยว่า ต้องมาลุ้นกันว่าจะได้ฉลองปีใหม่ไปด้วย ฉลองถ้วยแชมป์ ฟุตบอลโลก 2022 ไปด้วยกันเลยหรือไม่

กัลโช ซีรี่อา

เป็นเรื่องที่ค่อนข้างจะแปลกเลยทีเดียวสำหรับลีมักกะโรนี ที่จะหยุดลีกกันยาวข้ามปีกันเลย ซึ่งจะหยุดเบรคนับตั้งแต่วันที่ 15 พฤศจิกายน โดยจะพักยาวข้ามปีจนกลับมาทำการแข่งขันอีกครั้งในวันที่ 4 มกราคม 2023กันไปเลย ซึ่งไม่หยุดก็ไม่ได้เพราะตัวของทีมดังๆนั้นก็มีดาวเตะทีมชาติต่างๆ ที่เข้าไปค้าแข้งอยู่ในลีกกันมากอยู่เหมือนกัน ถ้าดันไม่หยุดตามเขามีผลกระทบอย่างแน่นอน

บทสรุป

ก็จบกันไปแล้วสำหรับช่วงเวลาพักเบรกเพื่อให้บรรดาดาวเตะได้ไปรับใช้ชาติ ซึ่งถ้าเป็น ฟุตบอลโลกครั้งก่อนๆนั้น ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอย่างแน่นอนเพราะเป็นช่วงของการพักปิดฤดูกาลพอดี ต้องมาดูว่าบรรดาแต่ละลีกจะมีการแก้ปัญหากันอย่างไรหลังการแข่งทัวร์นาเมนต์นี้สิ้นสุดลง ก็ต้องบอกเลยว่า ไม่ใช่เรื่องสนุกอย่างแน่นอน